ถ้ามีคำถามที่ต้องการเพียงหนึ่งคำตอบว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยให้สังคมแห่งประชาธิปไตยดำรงอยู่ได้ มูลนิธิฟรีดริช เนามัน คงเลือกตอบว่า "ประชาชน" และ "ประชาชน" ในที่นี้ คือ "ผู้ที่มีความตื่นตัวทางการเมือง มีความตระหนักถึงสิทธิและความรับผิดชอบของตนเองในสังคม ตลอดจนมีส่วนร่วมในกระบวนการทางการเมือง" 

เมื่อกล่าวถึงความเชื่อใน "พลังประชาชน" นอกจากจะเป็นความเชื่อแห่งจุดเริ่มต้นของมูลนิธิฟรีดริช เนามันแล้ว ยังเป็นความเชื่ออันยิ่งใหญ่ที่ยืนหยัดอยู่คู่มูลนิธิมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน เป็นความเชื่อที่ส่งผ่านมาจาก "คุณฟรีดริช เนามัน" นักคิดและนักเขียนสายเสรีนิยมชาวเยอรมนี ผู้ยึดมั่นในอุดมการณ์แห่งเสรีประชาธิปไตยอันมีประชาชนเป็นผู้ขับเคลื่อน และเป็นความเชื่อที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในประวัติศาสตร์รัฐธรรมนูญเยอรมนีด้วยเช่นกัน

มูลนิธิฟรีดริช เนามันประเทศไทย ได้สร้างความร่วมมือรอบด้านทั้งกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม หรือสื่อต่างๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่และเยาวชนที่พื้นที่ต่าง ๆ ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาไปจนถึงอุดมศึกษาทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดการร่วมกลุ่มนักสร้างสรรค์ นักธุรกิจเพื่อสังคม นักออกแบบรุ่นใหม่ เพื่อพัฒนาสื่อการเรียนรู้ และสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อการเรียนรู้ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน สร้างกิจกรรมกระบวนการมองภาพอนาคตประเทศไทยที่เก็บรวบรวมขอมูลและความคิดเห็นจากเยาวชนคนรุ่นใหม่ทั่งประเทศและนำมากลั่นเป็นนโยบายเพื่อเสนอต่อสาธารณะ 

 

นอกจากนี้มูลนิธิยังร่วมจัดงานสัมมนาประชุมวิชาการระดับประเทศกับหลายสถาบัน เพื่อตอบโจทย์สังคม ค้นหาวิธีการใหม่ ๆ ในการเข้าถึงผู้คนด้วยวิธีการที่สร้างสรรค์ และให้ความสำคัญกับผู้นำการเปลี่ยนแปลงของสังคมโดยจัดอบรมวิทยากรกระบวนการ การศึกษาดูงานและการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อสนับสนุนสังคมประชาธิปไตยให้เข้มแข็งและส่งเสริมการเคารพสิทธิพลเมืองและเสรีภาพ