Workshop-Youth
Progressive Leadership
CALD Youth Political Academy Tier3: Progressive Leadership
CALD YOUTH Political Academy ใน Tier ที่สาม ดำเนินการโดย คุณ Audrie Frias คุณ Jobelle Domingo คุณ Jiggy Calucag องค์กร Liberal Youth of the Philippines และ CALD ได้ดำเนินการอบรมในหัวข้อ Progressive Leadership ผ่านรูปแบบการบรรยาย การนำเสนอไอเดีย และการเล่นเกม ซึ่ง Tier ที่สามมุ่งเน้นให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้องค์ประกอบของการเป็นผู้นาที่มีความคิดก้าวหน้า, ความสาคัญของ organizational culture, และการสร้างแบรนด์ในฐานะผู้นำ นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมยังได้รับประสบการณ์การเป็นผู้นำผ่านการสวมบทบาทเป็นผู้นำของแต่ละอาณาจักรในเกม
โดย Tier นี้เริ่มจากการตั้งคาถามว่าผู้เข้าร่วมแต่ละท่านคิดว่าตนเองเป็นผู้นำหรือไม่และสามารทำงานผ่านเครือข่ายและวิธีการสื่อสารอย่างไรที่สุดท้ายแล้วสามารถบรรลุเป้าหมายของตนได้ ผู้ดาเนินการยังได้เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นในรูปแบบการตั้งคาถามเกี่ยวกับ Progressive Leadership เช่น ภาพลักษณ์ที่สาคัญของผู้นาในศตวรรษที่ 21 เป็นอย่างไร, ผู้นำที่มีความคิดก้าวหน้าควรมีวิสัยทัศน์และmindsetอย่างไร, คุณสมบัติอะไรที่ส่งผลให้คน ๆ หนึ่งถูกพิจารณาว่าเป็นผู้นำหัวก้าวหน้า เป็นต้น นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมแต่ละท่านมีความคิดเห็นส่วนตัวในเรื่องของภาพลักษณ์ของ Progressive Leaders ที่หลากหลาย เช่น มีวิสัยทัศน์, ความสามารถในการรับมือกับสถานการณ์, สร้างความเปลี่ยนแปลง, ความเห็นอกเห็นใจ, การเสริมอานาจให้กับประชาชน เป็นต้น
First Things First: Culture Eats Strategy for Breakfast บรรยายโดย คุณ Marike Gronewald
การบรรยายแรกนำโดย คุณ Marike Gronewald ในหัวข้อ วัฒนธรรมองค์กร (Organizational Culture) ซึ่งมีความสาคัญเป็นอย่างมากในการทางานอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นเอกภาพแต่กลับได้รับความสนใจน้อยในองค์กรทั้งจากผู้นำและสมาชิกในองค์กรนั้น ๆ
วัฒนธรรมองค์กร (Organizational Culture) มีหลากหลายความหมาย เช่น ทัศนคติ, ความเชื่อ, เป้าหมาย, และ พฤติกรรมที่สมาชิกในองค์กรมีร่วมกัน เป็นต้น ทั้งนี้วัฒนธรรมองค์กรมีความสาคัญต่อองค์กรเนื่องจากวัฒนธรรมนั้นมีอิทธิพลต่อการออกแบบกลยุทธ์รวมถึงส่งผลถึงความเป็นไปได้ของผลลัพธ์ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ผู้บรรยายยังชี้ให้เห็นถึงความผิดพลาดในการดำเนินงานของแต่ละองค์กรที่ไม่ได้เกิดจากความสามารถของสมาชิกองค์กรเสมอไปแต่อาจเกิดจากการไม่ให้ความสาคัญต่อวัฒนธรรมองค์กรเอง ในการบรรยายนี้ผู้บรรยายได้อธิบายเพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้นผ่านองค์กรสมมติที่ต้องการจะชนะการเลือกตั้ง ในสถานการณ์นี้การกำหนดและการมีอยู่ของวัฒนธรรมมีผลอย่างมากทั้งกับการทำงานภายในและผู้รับสาร เพื่อการบรรลุเป้าหมายนั้นองค์กรมีหน้าที่ในการแสดงออกอุดมการณ์และวัฒนธรรมของตนให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งยังมีหน้าที่ในการรักษาการมีอยู่ของรูปแบบความเชื่อและค่านิยมนี้เนื่องจากวัฒนธรรมเป็นสิ่งที่ต้องถูกสร้างและสามารถควบคุมได้ นอกจากนี้ผู้บรรยายยังได้ให้ Culture Map of Organization เพื่อให้ผู้เข้าร่วมการอบรมได้เห็นรูปแบบคำถามและแนวทางการสร้างวัฒนธรรมภายในองค์กร
Game Mechanics:
Game Mechanics: Nexus of Civilizations นาโดย คุณ Audrie Frias
ผู้ดาเนินการได้ใช้เกม Nexus of Civilizations เป็นสื่อการเรียนรู้ให้ผู้เข้าร่วมการอบรมได้รับประสบการณ์การเป็นผู้นาอาณาจักรต่าง ๆในเกม ซึ่งโลกในเกมมีชื่อว่า Naisa ประกอบไปด้วย 4 อาณาจักร คือ Laxus, Mandao, Demok, และ Igot โดยเป้าหมายของเกมคือผู้เล่นจาเป็นต้องร่วมมือกันผ่านactionต่าง ๆ อันนาไปสู่การ
บรรลุเป้าหมายในการ์ด situation ที่สุ่มไว้ก่อนเริ่มเกมและสะสมคะแนนachievement pointให้ได้มากที่สุด ซึ่งactionในเกมประกอบไปด้วย diplomatic action, trade action, และ war action โดย actionเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อผู้เล่นทอยลูกเต๋าได้ค่าเกินจานวนขั้นต่าที่กาหนด นอกจากนี้หากผู้เล่นตัดสินใจเลือก war action ผู้เล่นจะต้องเสียคะแนน achievement point เนื่องจาก action นี้ทำให้เกิดความแตกแยกระหว่างอาณาจักร จากประสบการณ์การเล่นเกมนี้นั้นผู้เล่นแต่ละคนได้มีรูปแบบการปกครองและการตัดสินใจที่แตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ผู้เล่นอาจจะเลือก action ตามสถานการณ์ต่าง ๆ แต่อาจจะเป็นอุปสรรคที่ขัดขวางการบรรลุเป้าหมาย การเล่นเกมนี้สะท้อนให้เห็นว่าแม้ผู้เล่นแต่ละคนจะมีอุดมการณ์และแนวทางในการปกครองอาณาจักรตั้งแต่เริ่มเกมและถูกมอบหมายเป้าหมายเดียวกัน แต่ระหว่างทางผู้เล่นต้องประสบปัญหาต่าง ๆ ซึ่งเปรียบได้กับสถานการณ์จริงที่ผู้นาและองค์กรของประเทศต้องแก้ไขปัญหาที่อยู่เหนือความคาดหมายและบางครั้งการตัดสินใจจาเป็นต้องขัดกับนโยบายหรือความเชื่อมั่นของตน
Mobilizing for your vision and strategies บรรยายโดย Jason Gonzales
การขับเคลื่อนวิสัยทัศและกลยุทธ์จำเป็นต้องเริ่มจากการมีจุดประสงค์และเมื่อวัตถุประสงค์นั้นคนหลายคนในสังคมมีร่วมกันจะทำให้เกิดการขับเคลื่อนในสังคมในที่สุด ทั้งนี้จุดประสงค์สามารถเกิดขึ้นเริมแรกได้ในระดับปัจเจกโดยเริ่มจาก พรสวรรค์ การให้คุณค่า และ วิสัยทัศน์ประจำตัว ของแต่ละคนผ่านการแสดงออกในบทบาทของแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป
การหาพรสวรรค์ของตัวเองนั้นคุณ Jason Gonzales ได้แนะนาให้ลองตอบคำถามดังต่อไปนี้ คุณชอบทอะไรเมื่อยังเป็นเด็ก? คุณสามารถทำอะไรบ้างที่ไม่ต้องใช้ความพยายาม? และ กิจกรรมใด (เกี่ยวกับงานหรือนอกเหนือจากงาน) ที่ทำให้คุณพึงพอใจมากที่สุด? โดยพรสวรรค์นั้นเป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องพิจารณาถึงมัน
ต่อมาการหาบางสิ่งที่เราให้คุณค่ากับมันซึ่งแต่ละคนสามารถหาคำตอบโดยคำถามต่อไปนี้ เราใช้เวลาส่วนมากไปกับอะไร? เราใช้เงินส่วนมากไปกับอะไร? อะไรคือสิ่งที่เรารู้สึกว่าเรามีแรงบันดาลใจกับมัน (passion)? อะไรทำให้เรามีพลังต่อไป? หรือ สิ่งไหนที่ทำให้เรารู้สึกตื้นเต้นไปกับมันได้ตลอดเวลา? วิสัยทัศน์ก็นับว่าสาคัญ โดยการหาวิสัยทัศน์สำหรับชีวิตเราสามารถลองถามตัวเองด้วยคำถามต่อไปนี้ คุณต้องการสร้างอะไรให้เกิดขึ้น? คุณต้องการสร้างอะไรให้กับชีวิตคุณ? คุณจะทำอย่างไรกับชีวิตของคุณถ้าความล้มเหลวไม่ใช่ปัจจัยสาคัญ? ในงานศพของคุณ คุณต้องการให้คนอื่นพูดถึงคุณว่าอย่างไร?
การหาพรสวรรค์ การให้คุณค่า และ วิสัยทัศน์ สามสิ่งนี้มีบทบาทสำคัญในการกำหนดวัตถุประสงค์ในชีวิตที่แตกต่างกันออกไปของคนในสังคมและสามารถแสดงออกผ่านการกระทำในบทบาทต่าง ๆ โดยวัตถุประสงค์เริ่มจากระดับปัจเจกและสามารถแบ่งปันให้กับคนอื่นจนนำไปสู่วัตถุประสงค์ร่วมที่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมและเปลี่ยนวิถีของคนในแต่ละชาติได้ โดยปรากฏการณ์ทีเราสามารถเห็นได้ในปัจจุบันจากการอธิบายข้างต้น เช่น Black live matter Martin Luther King ซึ่งจุดประสงค์ที่คนเหล่านั้นมีและสร้างร่วมกันคือการต่อต้านการเหยียดสีผิวที่จุดประกายการปฏิวัติทางสังคมในสหรัฐอเมริกาที่ดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน
Strategic communications in the age of social media: Jason Gonzales
การใช้กลยุทธ์ในการสื่อสารนั้นนับว่ามีความสาคัญในยุคที่ Social Media มีบทบาทสาคัญในชีวิตประจาวัน โดยการสื่อสารสามารถวางแผนผ่าน 5 ขั้นตอน
GOAL: เราต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า วัตถุประสงค์และเป้าหมายโดยรวมที่เราต้องการสื่อสารคืออะไร
AUDIENCE: ใครคือกลุ่มเป้าหมายผู้รับสารที่คุณต้องการให้ได้รับข้อความ
MESSAGE: ข้อความจำเป็นต้องปรับให้เข้ากับกลุ่มผู้ฟังเพื่อดึงดูดให้เกิดความสนใจ มีความชัดเจนในวัตถุประสงค์
CHANNEL: เราจะใช้ช่องทางใดในการสื่อสาร เช่น กลุ่มวัยรุ่นอาจะใช้ช่องทางโลกออนไลน์ เป็นต้น
CARRIER: ใครจะเป็นคนหลักขององค์กรในการส่งข้อความออกไป
สรุปกิจกรรม
จากการอบรมใน Tier ที่สามนี้สะท้อนหลายองค์ประกอบที่มีสาคัญในการเป็น Progressive Leader ทั้งในส่วนบุคคลและส่วนองค์กรโดยรวม จากในช่วงแรกของการอบรมจะเห็นได้ว่าแม้ผู้เข้าร่วมจะมีมุมมองของ
CARRIER
CHANNEL
MESSAGE
AUDIENCE
GOAL
คุณสมบัติผู้นำที่หลากหลายแต่ก็ยังคงมีความเชื่อมโยงกันที่ในปัจจุบันหลายๆประเทศยังมีผู้นำที่ขาดคุณสมบัติเหล่านี้ ทั้งนี้ CALD YOUTH Political Academy มีเป้าหมายที่จะส่งเสริมเยาวชนให้มีความรู้และความสามารถในการขับเคลื่อนสังคมทั้งในฐานะประชาชนและผู้นำ การอบรมครั้งนี้จึงมีความสาคัญและมีประโยชน์อย่างยิ่งในการสร้างผู้นำรุ่นใหม่ที่สามารถสร้างคุณสมบัติและขั้นตอนการทำงานที่ผู้เข้าร่วมแต่ละท่านเชื่อมั่น นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมการอบรมได้เรียนรู้ความสาคัญของการสร้างตัวตนที่แสดงให้เห็นถึงความเชื่อ, คุณค่า, และวิสัยทัศน์ของตนในฐานะผู้นำ รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมภายในองค์กรเพื่อการทำงานที่เกิดประสิทธิภาพสูงสุด