DE

FNF Alumni-Network
เรียนรู้การจัดการปัญหาขยะและสิ่งแวดล้อมในฐานะผู้ประกอบการอย่างมีความรับผิดชอบและสร้างสรรค์

A group picture with Miss Ning (Sivatel Founder) Sivatel Visit on July 20

a group picture with Miss Ning (Sivatel Founder) Sivatel Visit on July 20

© FNF

ปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมและขยะในโรงงานอุตสาหกรรมยังคงเป็นเรื่องที่น่ากังวล และก็ถูกให้ความสนใจอย่างมากด้วยเทรนด์ของผู้บริโภคที่ให้สำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม การจัดการปัญหาขยะภายในโรงงานอย่างสร้างสรรค์จึงเป็นประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสำคัญและต้องการผลักดันให้เกิดขึ้น FNF เชื่อว่าการเป็นผู้ประกอบการนั้นนอกจากจะสามารถมีอิสระในการดำเนินธุรกิจแล้ว ยังต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยเช่นกัน 

Responsible Entrepreneurship Workshop จัดขึ้นมาเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้เข้าร่วมเรียนรู้จากผู้ประกอบการในธุรกิจที่หลากหลายและผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะในด้าน Circular Economy 

เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 มูลนิธิฟรีดริช เนามัน ประเทศไทยได้จัดกิจกรรม Thailand-Myanmar Alumni Exchange 2024 ในประเด็น Responsible Entrepreneurship พาผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งจากไทยและพม่าเยี่ยมชมโรงงาน Moreloop และ Pin metal Art เพื่อศึกษากระบวนการจัดการขยะภายในโรงงานทั้งสองแห่งและการรังสรรค์เศษผ้าและเศษเหล็กที่ไร้มูลค่าให้กลายเป็นสินค้าที่มีราคา

Moreloop Factory ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมแฟชั่น 

Moreloop Factory Tour July 19th
© FNF 

กระแส Fast Fashion กำลังเป็นนิยม การบริโภคที่เกินความจำเป็นส่งผลให้อุตสาหกรรมแฟชั่นหมุนเวียนอย่างรวดเร็วและผลิตเสื้อผ้าออกมาเป็นจำนวนมาก การบริโภคที่เกินความจำเป็นและการผลิตที่มากเกินความต้องการก่อให้เกิดการสร้างขยะต่อสิ่งแวดล้อมที่ยากต่อการจัดการ ปัญหาขยะภายในโรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอจึงเพิ่มมากขึ้นในทุกวัน ท่ามกลางสถานการณ์ที่กำลังท้าทายเหล่านี้ Moreloop เป็นโรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอแห่งหนึ่งที่มีวิสัยทัศน์ในการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ให้เป็นจริง นำเศษผ้าส่วนเกินมาที่เหลือจากกระบวนการผลิตเสื้อผ้ามาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 

ในช่วงเยี่ยมชมโรงงาน คุณอมรพล หุวะนันทน์ และ คุณธมลวรรณ วิโรจน์ชัยยันต์ ผู้ก่อตั้งร่วมและ CEO ของ Moreloop ได้นำเสนอการนำเศษผ้าส่วนเกินมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ เช่น ชุดยูนิฟอร์ม กระเป๋า และของที่ระลึก เพื่อลดปริมาณขยะที่เกิดจากกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรมสิ่งทอ นอกจากนั้น Moreloop ยังมีอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่น่าสนใจในการต่อสู้กับปัญหาขยะที่เป็นภัยคุกคามในโลกอุตสาหกรรม Fast Fashion นั่นก็คือ การรับซื้อเศษผ้าส่วนเกินจากโรงงานสิ่งทอต่างๆ และเป็นตัวกลางในการนำวัสดุเหล่านี้ไปขายในตลาดออนไลน์เพื่อให้นักออกแบบหรือผู้ประกอบการนำไปผลิตเป็นสินค้ารีไซเคิลต่อไป ซึ่งการผลิตสินค้าโดยการนำเศษผ้าเหล่านี้ไปแปรรูป Moreloop ได้ทำให้เห็นว่าเป็นการประหยัดต้นทุนไปได้ถึง 30-50% และเป็นวิธีการจัดการปัญหาขยะส่วนเกินในโรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Pin Metal Art

FNF Thailand and Myanmar with Khun Pin (Pin Metal Art Founder) at Pin Metal Art Tour on 19 July 2024

FNF Thailand and Myanmar with Khun Pin in the center (Pin Metal Art Founder) at Pin Metal Art Tour on 19 July 2024 

© FNF 

เศษเหล็กที่หลงเหลือเป็นชิ้นส่วนของเสีย จะกลายมาเป็นสินค้าตกแต่งที่มีความสวยงามและมีราคาได้อย่างไร?  เป็นคำถามที่ชวนสงสัยเมื่อเราลองมองไปที่เศษแท่งเหล็กสีดำเขรอะขระ ที่อาจจะทำให้เราจินตนาการถึงความสวยงามของมันไม่ออก แต่คุณปิ่น ศุรตา เกียรติภาคภูมิ ผู้ก่อตั้ง Pin Metal Art สามารถออกแบบและรังสรรค์ผลิตภัณฑ์จากเศษเหล็กที่เหลือจากอุตสาหกรรมให้มีคุณค่า สวยงาม และเป็นศิลปะ

ในการเยี่ยมชม Pin Metal Art คุณปิ่น ได้อธิบายให้กับคณะผู้เข้าร่วมโครงการฟังว่า เดิมที ครอบครัวของเธอทำโรงงานอุตสาหกรรมเหล็ก คุณพ่อเป็นคนริเริ่ม และเธอก็อยู่กับมันมาตั้งแต่เล็กจนโตถึงแม้ว่าเธอจะไม่เคยชอบการทำโรงงานเหล็กของที่บ้านเลย จนมาถึงจุดหนึ่ง ที่เธอเริ่มรู้สึกว่า เธอไม่ชอบการผลิตแบบ Mass production ที่ทำให้เกิดปัญหาขยะเหลือใช้เป็นจำนวนมาก ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้เธอมีความปราถนาที่จะพัฒนาโรงงานของเธอให้เป็นโรงงานที่ลดขยะและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยการนำเศษเหล็กที่เหลือทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรมมาประดิษฐ์ให้เป็นสินค้าตกแต่งบ้านที่มีความน่าสนใจ

คุณปิ่น ได้ฟื้นคืนชีพเศษขยะให้กลับมามีชีวิต เพิ่มคุณค่าให้กับเศษเหล็กที่ยากจะจินตนาการถึงความสวยงามของมันผ่านกระบวนการสร้างสรรค์ที่มีความประณีต จากเศษเหล็กไร้ค่าให้กลายมาเป็นผลิตภัณฑ์ของตกแต่งบ้านที่มีราคาภายใต้แบรนด์ Pin Metal Art ที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยทางแบรนด์ได้รังสรรค์ของตกแต่งบ้าน อาทิ โคมไฟทำจากเศษเหล็ก เฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ รวมทั้งประติมากรรมจากเศษเหล็กที่น่าตื่นตาตื่นใจ เช่น ต้นคริสต์มาสจากเศษเหล็ก จัดแสดงที่ Park Hyatt Bangkok

เราได้เรียนรู้อะไรจาก Moreloop และ Pin Metal Art ?

การเป็นผู้ประกอบการที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมสามารถเกิดขึ้นได้จริงท่ามกลางสถานการณ์ที่เป็นภัยคุกคามต่อการเกิดปัญหาขยะล้นโลก โดยผ่านกระบวนการที่สร้างสรรค์และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่ถึงแม้ว่าเศษขยะจะเป็นสิ่งที่ยากต่อการนำมาประดิษฐ์ใช้ใหม่ให้มีคุณภาพสูง แต่อย่างไรก็ตาม ความสร้างสรรค์และความมุ่งมั่นที่จะเห็นสังคมไร้ขยะทำให้เกิดผู้ประกอบการอย่าง Moreloop และ Pin Metal Art ที่สามารถจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถรังสรรค์เศษขยะเหลือใช้ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีราคาและมีคุณภาพ ซึ่งจากเยี่ยมชมโรงงานทั้งสองแห่งนี้แสดงให้เห็นว่า การเป็นผู้ประกอบการที่มีความรับผิดชอบไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ท่ามกลางการแข่งขันทางธุรกิจในโลกทุนนิยม

โรงแรมศิวาเทล โรงแรมใหญ่ตั้งตระหง่านใจกลางกรุง ที่ไม่น่าเชื่อว่าด้านบนตึกสูงเแห่งนี้จะมีสวนพืชและผักลอยฟ้า ฟาร์มหนอนแมลงวันเลี้ยงด้วยเศษอาหาร และตลาดขายสินค้าออร์แกนิกท้องถิ่น

คุณหนิงบอกเล่าความเป็นมาของโรงแรมและพาชมสวนผักในโรงแรม

คุณหนิงบอกเล่าความเป็นมาของโรงแรมและพาชมสวนผักในโรงแรม

© FNF 

ในปัจจุบัน หลายคนคงคาดไม่ถึงว่า ธุรกิจโรงแรมนั้นได้สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมหาศาลจนน่าตกใจ สร้างมลพิษมากกว่าสำนักงานและครัวเรือนหลายหลัง ปล่อยก๊าซเรือนกระจกคิดเป็นสัดส่วน 1 % ทั่วโลก รวมทั้งการจัดการกับปัญหาขยะที่ไม่มีประสิทธิภาพ ท่ามกลางปัญหาที่ท้าทายเหล่านี้

การเป็นผู้ประกอบการที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมภายใต้ธุรกิจโรงแรมที่ผุดขึ้นมาแข่งขันกันราวกับดอกเห็ดจะเป็นไปได้หรือ ?

คุณ หนิง อลิสรา ศิวยาธร ผู้บริหารรุ่นที่ 3 แห่งโรงแรมศิวาเทล ได้นำเสนอถึงการผลักดันแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนมาประยุกต์ใช้เพื่อขับเคลื่อนการเป็นโรงแรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Hotel) และเป้าหมายการลดปริมาณขยะเศษอาหารสู่ Zero Food Waste ภายในปี 2024

ศิวาเทลทำอะไรบ้างเพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายให้เป็นจริง ?

ศิวาเทลให้ความสำคัญกับการลดผลกระทบทางลบทุกมิติต่อสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการรักษามาตรฐานความหรูหราของโรงแรม ในด้านการรักษาพลังงาน ศิวาเทลติดตั้งเครื่องปรับอากาศที่มี VRF (variable refrigerant flow) และ R410 refrigerant ที่ช่วยประหยัดพลังงานได้มีประสิทธิภาพสูงกว่าระบบแบบทั่วไป นอกจากนั้นยังติดตั้งไฟ LED และเครื่องใช้ที่ได้มาตรฐานสูงสุดในท้องถิ่น รวมทั้งการติดกระจกแบบเต็มบานเพื่อรักษาอุณหภูมิของอาคารให้ประหยัดพลังงานและปล่อยมลพิษออกสู่ภายนอกให้น้อยที่สุด

ในด้านการจัดการขยะ เพื่อเป้าหมายการกลายเป็นโรงแรมที่ไร้ขยะเศษอาหาร ศิวาเทลได้จัดการกับปัญหาเศษอาหารเหลือทิ้งผ่านการนำเศษอาหารเหล่านั้นไปหมักเป็นปุ๋ยที่ใช้สำหรับบำรุงพืชและผักบนสวนลอยฟ้า หรือนำเอาไปเลี้ยงหนอนแมลงวันซึ่งจะนำไปใช้เป็นอาหารสัตว์ในฟาร์มออร์แกนิคที่จัดหาวัตถุดิบในการทำอาหารให้กับโรงแรม นอกจากนั้น ศิวาเทลยังมีนโยบายลดขยะ No-single used plastic ที่เปลี่ยนจากบรรจุภัณฑ์ที่เป็นพลาสติกใช้แล้วทิ้งมาเป็นแบบที่สามารถรีฟีลได้ ขวดน้ำพลาสติกก็ปรับเปลี่ยนให้เป็นขวดแก้วสำหรับนำกลับมาใช้ใหม่

นอกเหนือจากการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม คน ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กัน การทำงานร่วมกับชุมชนและการสร้าง Happy workplace เป็นอีกหนึ่งนโยบายของศิวาเทล ในการสร้างพื้นที่แลกเปลี่ยนวัตถุดิบอาหารที่มีความปลอดภัยและสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น พัฒนาคุณภาพอาหารของโรงแรมควบคู่ไปกับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของเกษตรกรและคนทำฟาร์ม พร้อมทั้งการกำหนดโมเดลหลักเพื่อสร้างวัฒนธรรมการทำงานให้เป็นเสมือนครอบครัว คนทำงานสนิทสนมกันราวกับญาติพี่น้อง เพราะเมื่อรากฐานจากข้างในแข็งแรงก็ย่อมสามารถขับเคลื่อนเป้าหมายให้ไปสู่ความสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ถอดบทเรียนอะไรได้จากศิวาเทล การเป็นผู้ประกอบการที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมให้อะไรกลับคืนมา ?

การผลักดันเศรษฐกิจหมุนเวียนให้เกิดขึ้นจริงของศิวเทล เช่น การจัดการปัญหาขยะผ่านการนำไปทำเป็นปุ๋ยหมักเพื่อบำรุงพืชบนสวนดาดฟ้า การขับเคลื่อน No-single used plastic และการจัดหาวัตถุดิบทำอาหารที่ร่วมกับเกษตรกรท้องถิ่น  "ทั้งหมดนี้ทำให้ต้นทุนในการจัดหาวัตถุดิบลดน้อยลงไปมาก โรงแรมก็ได้กำไรเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาในการคิดหากระบวนการและทดลองทำแต่ผลลัพธ์ที่ออกมาก็คุ้มค่า โรงแรมได้กำไร คนทำงานและเกษตรกรท้องถิ่นมีชีวิตที่ดีขึ้น ควบคู่ไปกับการรักษาโลกของเรา" คุณหนิง 

Sharing Panel on July 20th at Centre Point Chidlom

Sharing Panel on July 20th at Centre Point Chidlom 

© FNF

Panel Discussion สูตรสำหรับการเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ

ในกิจกรรมการอภิปรายช่วงบ่าย ผู้บรรยายทั้ง 4 ท่านต่างได้แบ่งปันแนวคิดและกระบวนการในการนำธุรกิจของตนก้าวเข้าสู่การเป็นธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คุณ Lian Sian Nem (Sen Sen) ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าฝ่ายออกแบบของ ChuChu Recycle องค์กรเพื่อสังคมในเมียนมาร์ที่มุ่งเปลี่ยนขยะให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์และใช้งานได้จริง โดยในการอภิปรายเธอได้บอกเล่าถึงกระบวนการออกแบบและสร้างผลิตภัณฑ์ขององค์กร การนำวัสดุเหลือใช้ อาทิ ยางรถยนต์ พลาสติกอ่อน มารีไซเคิลเป็นกระเป๋าสตางค์ ตระกร้า และของตกแต่ง เพื่อลดปัญหาขยะเกลื่อนเมืองที่เป็นปัญหาใหญ่ในปัจจุบัน

 

Okka Phyo Maung ผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน จาก RecyGlo บริษัทจัดการขยะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเขาได้บอกเล่าเกี่ยวกับการให้บริการรีไซเคิลขยะจากภาคธุรกิจหรือบุคคลอย่างปลอดภัยและเชื่อถือได้ เพื่อลดเศษขยะและผลักดันเศรษฐกิจแบบหมุนเวียนให้เกิดขึ้นจริง ลำดับถัดไป คุณต่าย ภัทรา คุณวัฒน์ นักออกแบบบรรจุภัณฑ์ ผู้ก่อตั้ง Bangkok Pack ได้ร่วมแบ่งปันการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์อย่างสร้างสรรค์และนำกลับมาใช้ใหม่ เพื่อป้อกันการกลายเป็นขยะส่วนเกินในภายหลัง ตบท้ายด้วย คุณ อมรพล หุวะนันทน์ ผู้ร่วมก่อตั้งโรงงาน Moreloop ที่มาร่วมอภิปรายอีกวันเพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้เห็นคอนเซปต์ของการจัดการปัญหาขยะในโรงงานสิ่งทอมากขึ้น เป็นแนวทางให้ผู้ประกอบการ startup ได้นำไปประยุกต์ใช้ในภาคธุรกิจของตนต่อไป

การลดขยะผ่านแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน

หลังจากการลงพื้นที่เยี่ยมชมกระบวนการจัดการปัญหาขยะในโรงงาน โรงแรม และการฟังอภิปรายจากผู้ประกอบการทั้ง 4 คน จากไทยและเมียนมาร์ เราจะได้ยินคำว่า “เศรษฐกิจหมุนเวียน” กันบ่อย เศรษฐกิจหมุนเวียนกลายเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของหลายองค์กรที่มีนโยบายรักษาสิ่งแวดล้อม แล้วคำว่า เศรษฐกิจแบบหมุนเวียนคืออะไรกันแน่ ?

วันที่ 21 กรกฎาคม ผู้เข้าร่วมโครงการได้รับฟังบรรยายในประเด็น การลดขยะผ่านแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน(Circular Economy) และ กระบวนการคิดแบบ (Life-cycle Thinking) ตลอดทั้งช่วงเช้าและช่วงบ่าย โดยมีคุณภาคภูมิ โกเมศโสภา ผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืนอิสระ เป็นผู้บรรยาย

เศรษฐกิจแบบหมุนเวียน (Circular Economy) คืออะไร ? ปกติแล้ว เมื่อเราใช้สิ่งของใดๆ จนมันพังหรือไม่สามารถใช้ต่อได้อีก ในขั้นสุดท้ายของชีวิตมัน สิ่งที่เราทำอาจจะเป็นการโยนพวกมันทิ้งลงทั้งขยะโดยที่ไม่ได้ใส่ใจกับมันอีก แต่ในขณะเดียวกัน สิ่งของเหล่านั้นสามารถถูกนำไปเพิ่มคุณค่าให้ตัวมันได้แทนที่จะโยนมันทิ้งไปจนเสียคุณค่า ซึ่งหมายความว่า เราสามารถสร้างคุณค่าให้กับของที่เป็นขยะให้กลายเป็นสิ่งใหม่ที่สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้ โดยผ่านกรรมวิธี Recycle, Remanufacture, Refurbish Redistribute, Reuse and Repair ซึ่งแนวคิดเศรษฐกิจแบบหมุนเวียนเป็นเสมือนแนวทางสำหรับการไปสู่เป้าหมาย Zero – waste Economy ในอนาคต

 

Life-cycle Thinking เครื่องมือสำหรับการประเมินผลกระทบทางสังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม ที่เกิดจากกระบวนการผลิตไปจนถึงการกำจัดในขั้นสุดท้าย เครื่องมือนี้จะช่วยให้เห็นถึงกระบวนการของปัญหาตั้งแต่ต้นจนจบ และจะช่วยให้เห็นภาพชัดขึ้นว่าปัญหาอยู่ตรงไหนและจะหาวิธีลดผลกระทบของปัญหาได้อย่างไร โดยในช่วงท้าย มีการจัดกิจกรรมกลุ่มเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับ Life-cycle Thinking มากขึ้น ผ่านการให้ทุกกลุ่มสมมติว่าเป็นเจ้าของธุรกิจผลิตภัณฑ์ไก่ทอด และช่วยกันเขียนกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นจนไปถึงขั้นตอนการกำจัดในขั้นสุดท้าย ประเมินปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและหาแนวทางแก้ไขร่วมกัน

Sirikan Bunsit is a Political Science student at Thammasat University and an intern at FNF Thailand.

Ganyanat Phathithin (Miko) is a Communication Officer and Project Assistant at FNF Thailand.