Cyber Security
กิจกรรมรับฟังความคิดเห็น เพื่อสร้างความเป็นธรรมในสังคม (PLACE OF JUSTICE) ภายใต้โครงการส่งเสริมธรรมาภิบาลและการมีส่วนร่วมของภาครัฐและภาคประชาสังคม
![pimrapaat](/sites/default/files/2023-06/539575.jpg)
Dr.Pimrapaat was the moderator for Place of Justice Public Hearing
ปัจจุบันอาชญกรรมไซเบอร์ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำของมนุษย์ ทำให้หลายหน่วยงานให้ความสำคัญในการป้องกัน คุ้มครอง รวมถึง สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จึงเป็นคำตอบสู่คำถามที่ว่า “แล้วทำไมเราต้องให้ความสำคัญกับอาชญกรรมไซเบอร์ ?”
เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2566 มูลนิธิฟรีดริช เนามัน ประเทศไทยได้ร่วมจัดกิจกรรมรับฟังความคิดเห็น เพื่อสร้างความเป็นธรรมในสังคม (PLACE OF JUSTICE) ภายใต้โครงการส่งเสริมธรรมาภิบาลและการมีส่วนร่วมของภาครัฐและภาคประชาสังคมโดย ดร.พิมพ์รภัช ดุษฎีอิสริยกุล ทำหน้าที่เป็นพิธีกรและผู้ดำเนินรายการเสวนา ในหัวข้อ "อาชญากรรมไซเบอร์กับบทบาทผู้ตรวจการแผ่นดิน"
ปัจจุบันอาชญกรรมไซเบอร์ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำของมนุษย์ ทำให้หลายหน่วยงานให้ความสำคัญในการป้องกัน คุ้มครอง รวมถึง สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จึงเป็นคำตอบสู่คำถามที่ว่า “แล้วทำไมเราต้องให้ความสำคัญกับอาชญกรรมไซเบอร์ ?”
ในยุคแรก ก่อนจะมาเป็นอาชญากรรมไซเบอร์ ได้ถูกเรียกว่าอาชญากรรมคอมพิวเตอร์มาก่อน ซึ่งเกิดจากการทำลายระบบคอมพิวเตอร์ทางกายภาพ เช่น การทุบทำลาย จากนั้นมีวิวัฒนาการเป็นการดัดแปลงข้อมูลทางธุรกิจ ทางการเงิน ทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้ที่เป็นเจ้าของ ซึ่งต้องกระทำกับคอมพิวเตอร์โดยตรง ต่อมาเมื่อระบบอินเทอร์เน็ตถูกพัฒนาขึ้นทำให้ไม่ต้องกระทำกับคอมพิวเตอร์โดยตรง และไม่ต้องอยู่ในพื้นที่นั้น ทำให้คำนิยามได้เปลี่ยนแปลงไป จากอาชญากรรมคอมพิวเตอร์มาสู่ อาชญากรรมไซเบอร์
ซึ่งการที่เราให้ความสำคัญกับอาชญกรรมไซเบอร์นั้น เนื่องจากอาชญกรรมไซเบอร์ส่งผลกระทบต่อทั้งในด้านวัตถุและจิตใจ โดย 1. ด้านวัตถุจะเป็นการแก้ไข ทำลายข้อมูล หรือระบบมัลแวร์ ตัวอย่างเช่น ไวรัสคอมพิวเตอร์ที่ส่งไปทำลายการทำงานของระบบ, logic bomb ทำงานตามที่กำหนดว่าจะให้เกิดเหตุการณ์อะไร ในเวลาที่กำหนด, Trojan horse ซอฟแวร์ที่แอบทำงานลับ ๆ เพื่อบุกรุกเข้าสู่ระบบ เป็นต้น และ 2. ในด้านจิตใจ มีผลต่อส่วนบุคคลและสังคมโดยรวมเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นที่เราพบเห็นได้บ่อยอย่าง Cyber Bullying การกลั่นแกล้งข่มเหงผ่านทางออนไลน์ หรือ Vishing การหลอกลวงข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลการเงินผ่านทางโทรศัพท์อินเทอร์เน็ตหรือที่เรารู้จักกันว่า “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” หรือแม้แต่ในระดับสังคมก็มีการใช้ Information operation ซึ่งเป็นการใช้เนื้อหาแย่งชิงความเชื่อมวลชน
นอกเหนือไปจากการทำงานของภาครัฐ เราได้เห็นการทำงานของภาคประชาสังคมที่เพิ่มมากขึ้น อย่าง โคแฟก ที่มีภารกิจในการ Fact Checking แล้วโคแฟกทำอะไรบ้าง ?
![pimrapaat](/sites/default/files/styles/uv_full_content/public/2023-06/539631.jpg?itok=IOwPPArc)
ภารกิจของโคแฟก คือ การตรวจสอบเนื้อหา สืบหาต้นตอ วิเคราะห์ที่มา สืบค้นฐานข้อมูลออนไลน์ สัมภาษณ์ ขอข้อมูล-คำชี้แจงจากผู้เกี่ยวข้อง โดยประเด็นที่โคแฟกทำการตรวจสอบ ได้แก่
- ข้อมูลผิด (misinformation) และข่าวลวง (fake news) ที่ไม่ซับซ้อน
- ข้อมูลเท็จทางการเมืองที่เผยแพร่โดยเจตนา (political disinformation)
- ข้อมูลของภาครัฐ คำกล่าวอ้างของบุคคลสาธารณะ นักการเมือง พรรคการเมือง
แต่อย่างไรก็ตามการทำงานของโคแฟกก็ยังมีความท้าทาย เนื่องจาก 1.ข้อมูลเท็จหรือข่าวลวงมีปริมาณมหาศาล ทำให้เกิดคำถามว่าจะตามหักล้าง ป้องกัน สกัดได้อย่างไร 2.Beyond fake news ฟันธงไม่ได้ว่าเท็จหรือจริง แต่เป็นความคิดเห็นที่ทำให้เหมือนเป็นข้อมูลจริง 3.ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร ข้อมูลเท็จถูกเผยแพร่อย่างเป็นขบวนการ เป็นระบบ มีเครือข่ายบัญชีผู้ใช้งานที่ปฏิบัติร่วมกัน (ต้องใช้เครื่องมือในการยืนยัน) และ 4.คนไม่สนความจริง เชื่อในสิ่งที่อยากเชื่อ รู้ทั้งรู้ว่าเท็จ แต่ยังใช้ข้อมูลนั้นทำลายผู้อื่น
อีกทั้งโคแฟกได้มีข้อเสนอแนะต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ไม่ว่าจะเป็นการรับมือ ไม่ใช่แค่ตั้งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประจำหน่วยงาน หรือชี้แจงข้อเท็จจริงเป็นเรื่อง ๆ แต่ต้องร่วมกันสร้างระบบนิเวศออนไลน์ที่ไม่เอื้อต่อการผลิตและเผยแพร่ข่าวเท็จ สร้างภูมิคุ้มกันเท่าทันให้ประชาชน วิเคราะห์ผลกระทบของข่าวเท็จว่าเป็นอุปสรรคต่อการอำนวยความสะดวกและความเป็นธรรมให้ประชาชนอย่างไร และตรวจสอบปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารของหน่วยงานรัฐ
ทั้งนี้ในช่วงตอบคำถามจากผู้เข้าร่วมกิจกรรม มีคำถามจากผู้เข้าร่วมว่า สำหรับกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะเยาวชนและผู้สูงอายุเวลาเจอเรื่องหลอกลวงทางออนไลน์เรามีวิธีป้องกันอย่างไร? วิทยากรทั้ง 4 ท่าน ได้ให้คำแนะนำและเสนอแนวทางในการรับมือดังนี้
พ.ต.อ.เจษฎา บุรินทร์สุชาติ กล่าวว่า เด็กรู้เร็วรู้เยอะ ผู้สูงอายุตามไม่ทัน ให้มีการเตือนกันหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลกันบ่อย ๆ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ผู้ใหญ่จะได้ช่วยดูแลการใช้งานของเด็ก เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารออกไป สำหรับผู้สูงอายุต้องค่อย ๆ ถาม ค่อย ๆ บอก ส่งข่าวให้อ่าน พยายามแลกเปลี่ยนเพื่อลดช่องว่างระหว่างวัย
![พ.ต.อ.เจษฎา บุรินทร์สุชาติ](/sites/default/files/styles/uv_full_content/public/2023-06/539579.jpg?itok=p0MKmkZ0)
ผอ.สัจจะ โชคบุญส่งสวัสดิ์ กล่าวว่าการแก้ปัญหาเรื่องการหลอกลวงทางออนไลน์ อาจเรียกได้ว่าเป็นการเด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาวสำหรับกลุ่มผู้เปราะบางอย่างผู้พิการ ที่จะได้รับผลกระทบ หากมีการออกมาตรการที่ไปปิดกั้นอะไรบางอย่าง ดังนั้นก็อาจจะต้องหาแนวทางแก้ไขกันต่อไปที่เหมาะสมกับทุกฝ่าย
![ผอ.สัจจะ โชคบุญส่งสวัสดิ์](/sites/default/files/styles/uv_full_content/public/2023-06/539601.jpg?itok=BWfunpiQ)
คุณสุภิญญา กลางณรงค์ ได้อ้างถึง หลักกาลามสูตร อย่าพึ่งเชื่อแม้ว่าคนพูดนั้นจะดูน่าเชื่อถือ เราต้องตรวจสอบเองก่อนเสมอ การช็อปออนไลน์ ของถูก ของฟรี ไม่มีในโลก Too good to be truth ใช้หลักวิธีในการยับยั้งชั่งใจ มี Critical Thinking ให้ลูกหลานเป็นคนช่วยสอนผู้ใหญ่ในครอบครัว (Family Support) และทักษะการใช้เครื่องมือพื้นฐาน (Basic Skill Tools) ก็เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งก็เป็นคำถามที่ว่าต้องทำยังไง อาจเริ่มจากขั้นแรกแบบอ่านออกเขียนได้และใช้เป็น
![Supinya Klangnarong](/sites/default/files/styles/uv_full_content/public/2023-06/539636.jpg?itok=bf8O7Jxp)
รศ.อิสสรีย์ หรรษาจรูญโรจน์ กล่าวว่า อยากได้ความร่วมมือจากภาคประชาสังคม และภาคธุรกิจ สถาบันการศึกษาต้องมาช่วยให้ความรู้เยาวชน ให้รู้จักยับยั้งชั่งใจ รู้เท่าทัน และรอดพ้นจากสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ เพราะเทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างรวดเร็วจึงต้องพึ่งพาภาคส่วนต่าง ๆ มาช่วย อีกประเด็นสำคัญคือภูมิคุ้มกันว่าจะสร้างยังไงให้ประชาชนทุกคน เรื่องสำคัญคือความไม่โลภ บทบาทของโคแฟกอาจตอบโจทย์เรื่องนี้ได้
![รศ.อิสสรีย์ หรรษาจรูญโรจน์](/sites/default/files/styles/uv_full_content/public/2023-06/541539.jpg?itok=gdNqulLh)
![Place for Justice 2023](/sites/default/files/styles/uv_full_content/public/2023-06/539570.jpg?itok=Rh2HkIAD)