Dream Constitution

โอกาสเด็กอีสาน

โอกาสนี้ที่ได้รับมันสำคัญมากและยิ่งใหญ่มากสำหรับชีวิตเด็กอีสานคนหนึ่ง รู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้เดินทางไปร่วมงานที่กรุงเทพมหานครฯ เป็นงานใหญ่งานแรกของกระผมและรู้สึกทำตัวไม่ถูก แต่ก็รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเชิญไปร่วมกิจกรรม ขอบคุณพี่ ๆ FNF Thailand ที่ติดต่อและเห็นคุณค่าเด็กคนนี้

การที่เราจะไปร่วมกิจกรรมนี้มีการเตรียมตัวเป็นอย่างมากเมื่อโจทย์ที่ได้คือ อนาคตประเทศไทยและรัฐธรรมนูญในฝัน การที่เราต้องออกแบบรัฐธรรมนูญในความฝันของเรามันเป็นเรื่องไกล กระผมจึงต้องไปทำความเข้าใจกับหลักรัฐธรรมนูณใหม่ ว่าเราจะเข้าใจรัฐธรรมนูญได้ดีแค่ไหนและหาจุดอ่อนและสิ่งที่อยากจะพัฒนาขึ้นจากที่เราคิดว่าต้องเป็นอย่างไรถึงจะดีขึ้น ช่วงแรกผมเครียดมากเพราะไม่ค่อยเข้าใจภาษาในหลักรัฐธรรมนูญ มันยากสำหรับเด็กรุ่นใหม่ที่ไม่คุ้นชินกับภาษากฎหมาย แต่ผมก็พยายามที่จะหาเทคนิคในการจับใจความสำคัญ เพื่อที่จะทำให้รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องง่าย การตีความความหมายที่เชื่อมโยงและซับซ้อนมันก็แฝงไปด้วยเนื้อหาสำคัญที่รัฐธรรมนูญจะมีความขลังในตัว ผมก็ไม่คิดว่ารัฐธรรมนูญจะมีความสำคัญต่อการใช้ชีวิตของเรามากเพราะคิดว่ารัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของการเมืองและนักการเมือง แต่พอมาให้ความสำคัญและเปิดใจเรียนรู้ถึงเข้าใจถึงรากลึก ทำให้รู้ถึงความสำคัญของรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายแม่แบบที่ทุกคนต้องใช้ร่วมกัน    ทุกคนควรสามารถมีส่วนออกแบบซึ่งกฎข้อบังคับได้ และกฎหมายควรจะมีความยุติธรรมกับคนทุกคน นิยามประโยคนี้มันเป็นเสมือนกับข้อสงสัย ว่าประเทศไทยเราเป็นแบบนั้นจริงหรือเปล่าถ้าเกิดเป็นแบบประโยคนั้นจริง ๆ ทำไมคนในสังคมบ้างกลุ่มถึงยังไม่ได้รับความเป็นยุติธรรม สิทธิ เสรีภาพ ดั่งตามหลักที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้จริงหรือ...

จากปัญหาเรื่องราวที่กระผมได้ประสบพบเจอศึกษาเรียนรู้ใช้ชีวิต ทำให้กระผมกลับไปมองถึงสาเหตุของการเกิดขึ้นมีข้อสงสัยว่าทำไม ผู้ใหญ่ที่มีอำนาจไม่ประพฤติปฏิบัติตามหลักความถูกต้องตามหลักรัฐธรรมนูญ การที่เรารู้สึกว่าชาวบ้านบ้างพื้นที่ไม่ได้รับความยุติธรรม เป็นอีกหนึ่งแรงที่จะเข้าไปขับเคลื่อนในการพัฒนารัฐธรรมนูญ ให้เกิดความยุติธรรมต่อคนทุกกลุ่มมากขึ้น

เมื่อมาถึงวันงานจริง Youth Dialogue รัฐธรรมนูญในฝัน คนเข้าร่วมต่างมาจากหลากหลายภูมิภาคไม่รู้จักกัน ในช่วงแรกกระผมไม่รู้จะพูดคุยกับใคร กระผมจึงนั่งนิ่งฟังอย่างเดียวไม่กล้าที่จะทักทายใคร แต่ก็มีน้องมาจากเทคนิคปทุมธานีได้เริ่มชวนคุยเลยได้ออกมาจากเซฟโซนของตัวเอง เริ่มที่จะพูดคุยกันทำให้บรรยากาศดีขึ้น หลักจากนั้นการเข้าสู่กระบวนการแบ่งกลุ่มแบบคละกันหลากหลายพื้นที่ ทำให้ไม่รู้ว่าเราจะสามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่.. จะคุยกันรู้เรื่องไหม

กิจกรรมเริ่มต้นโดยวิทยากรเอาของเล่นเลโก้มาวางไว้ให้บนโต๊ะ ในตอนนั้นคิดในใจว่า เหมือนจะทำแบบเด็ก มองไม่ออกว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญตรงไหน เลโก้ก็แค่น่าจะเอามาต่อสร้างผลงานแล้วก็จบ แต่...ไม่เลย พอเริ่มกระบวนการ วิทยากรก็ให้ของเล่นเลโก้คนละหนึ่งกล่อง แล้วให้สร้างตามคำสั่งวิทยากร ให้เราอธิบายตามความเป็นตัวตนของเราและเรารู้สึกอย่างไรเลโก้แต่ละชิ้นสื่ออะไร ตอนนั้นกระผมยังไม่รู้เขาต้องการอะไร.. แต่รู้ตัวอีกทีกระบวนการนี้ทำให้เรารู้ความคิดของเพื่อน ความเป็นตัวเองของเพื่อนในกลุ่มอีกที่มาจากหลากหลายพื้นที่ ความคิดก็แตกต่างกันไป โอ้โฮ... เริ่มสนุกแล้วสิ กระผมปีสี่แล้วไม่เคยเล่นกิจกรรมแบบนี้เลย

ต่อไปเป็นส่วนของการสร้างเมืองในฝัน วิทยากรจะเทชิ้นเลโก้กองใหญ่ไว้บนโต๊ะ เราสามารถไปหยิบเพิ่มได้ ความรู้สึกตอนนั้นอยากเล่นกิจกรรมนี้มาก พอวิทยากรให้สัญญาณเริ่มประกอบเลโก้เมืองในฝัน ทุกคนก็ขะมักเขม้นกันทำในเวลาจำกัด ต่างคนต่างลงมือทำเมืองของตนเองไม่มีใครพูดคุยกันเลย บรรยากาศตอนนั้นคือตั้งใจสุด ๆ กลัวไม่ทันเวลา ความสุขอีกหนึ่งอย่างคือคนในกลุ่มช่วยเหลือกันไม่มีใครเห็นแก่ตัว คนเสร็จก่อนก็เอาใจช่วยลุ้น จินตนาการนำความคิด มีคำหนึ่งที่วิทยากรพูดแล้วจำได้คือ ไม่ต้องไปเครียดประกอบก่อนค่อยคิด มันดูสิ้นคิดแต่มันได้ผลจริงทำให้เราไม่พะวงไม่ปิดกั้นจิตนาการของตัวเอง

หลังจากนั้นก็เป็นการอธิบายหลังจากประกอบเองในฝันของตัวเองเสร็จ กระบวนการนี้ทำให้เรารู้ถึงความคิดและความฝันในการสร้างเมืองของแต่ละคน ซึ่งทุกคนสามารถอธิบายเมืองของตัวเองได้ดีมาก มันบ่งบอกถึงความคิดความต้องการที่แท้จริงในใจของเยาวชนผู้สร้างเมืองเองได้จริงอนาคตประเทศไทยและรัฐธรรมนูญในฝันของเยาวชนจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ในประเทศไทย

การรวมกันของความฝันเยาวชนที่มาจากทั่วประเทศสรรค์สร้างผลงานผ่านเลโก้ทำให้กระผมเปลี่ยนความคิดไป แค่เลโก้เราก็สามารถสร้างเมืองร่วมกันได้ กลุ่มกระผมหลักจากที่รวมแนวความคิดของเมืองแต่ละคนในกลุ่มก็ได้ชื่อเมืองว่า เมืองสีเขียว การสร้างเมืองสีเขียวประกอบด้วยเลโก้ด้านหน้าที่มีหลากหลายสี สื่อถึงประชากรที่มีหลากหลายกลุ่ม มีการ์ตูนถือค้อนดำ เหมือนกับถืออคติ มีการ์ตูนที่บอกว่าเป็นผู้นำบนหัวสีแดง สีแดงแปลว่าชาติ สื่อถึงมีความคิดที่จะพัฒนาชาติไม่หวังประโยชน์ส่วนตน ต่อมาจะมีประตูใจที่เปรียบเสมือนการเปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ เมืองที่มีสีเขียวพร้อมกับป่าในเมืองและรถไฟฟ้า สื่อถึงต้องการพลังงานสะอาด เลโก้การ์ตูนเดินมาพูดคุยกัน กลุ่มกระผมอยากให้ผู้คนในสังคมเป็นมิตรและมีความสัมพันธ์ที่ดี เพราะสะท้อนถึงสังคมไทยในปัจจุบันที่นับวันเริ่มห่างกันไปไกล ถัดมาช้างที่หลังอิงไปทางเกษตรกรรมมีกล่องสมบัติ ให้ความหมายว่าประเทศไทยส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมผลผลิตทางการเกษตรจึงเปรียบเสมือนสมบัติของประเทศไทย หลังจากผลิตสินค้าต้องมีของเสียทางการเกษตรเราสามารถนำไปผลิตไฟฟ้าได้ โดยเกิดประโยชน์สูงสุดกับเลโก้ที่กลุ่มผมสร้างฐานผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาด ไฟฟ้าที่สามารถส่งขายต่างชาติได้เพราะโรงงานที่มีมาตรการดูแลสวัสดิการและความปลอดภัยของแรงงานอย่างเข้มงวด จากเลโก้เครนยกรถ ด้านหลังจากการผลิตจะมีเลโก้โรงงานที่มีการควันใสที่สะอาดออกมาจากปล่องไฟและหลังคาสีเขียว สื่อถึงการสร้างโรงงานที่ปราศจากมลพิษปลอดภัยเป็นผลต่อชีวิตทุกคนระบบนิเวศสิ่งแวดล้อมในสังคม  การสร้างเมืองที่น่าอยู่เป็นสิ่งสำคัญต่อประเทศไทยในปัจจุบัน สังคมจะน่าอยู่ก็ขึ้นกับผู้อยู่อาศัยลงมือทำมัน

การพัฒนาประเทศไทยให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืนต้องอาศัยรัฐธรรมนูญที่ส่งเสริมสิทธิมนุษยชน และเปิดโอกาสให้เยาวชนมีส่วนร่วมในการกำหนดอนาคตของตนเอง รัฐธรรมนูญที่ดีควรคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงออกด้านความคิด พัฒนาการศึกษา และการมีส่วนร่วมทางการเมืองของเยาวชน เพื่อให้พวกเขาสามารถเสนอแนวคิด นโยบาย และนวัตกรรมที่ตอบสนองความต้องการของสังคมได้อย่างแท้จริง เมื่อเยาวชนได้รับการสนับสนุนให้เป็นพลังสำคัญของประเทศ ไม่เพียงแต่จะช่วยพัฒนาประชาธิปไตยให้เข้มแข็ง แต่ยังช่วยสร้างสังคมที่เท่าเทียมและเป็นธรรม ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืน

ตลอดระยะเวลาที่ได้ก้าวมาเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงในครอบครัว FNF Thailand ทำให้รู้สึกว่าชีวิตคนเราสามารถกำหนดเองได้โดยไม่ต้องรอใครมาช่วยเหลือ เราเป็นผู้ใช้ชีวิตควรจะรู้ถึงปลายทางที่จะก้าวเดินต่อไป สังคมที่พร้อมพัฒนาเพื่อก้าวทันโลกสมัยใหม่สร้างรากฐานเมืองสิทธิมนุษยชนคนทุกอยู่ร่วมกัน ตั้งสัตย์ปฏิญาณมุ่งมั่นตั้งใจศัทธาในความยุติธรรม รู้เคารพสิทธิมนุษยชน ห่วยใยธรรมชาติ ปราศจากยาเสพติด เพื่ออนาคตที่ดีของเรา

โอกาสครั้งนี้สำหรับเด็กอีสานคนนี้ยิ่งใหญ่มาก กระผมเชื่อว่า FNF Thailand สร้างเยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติสร้างให้เยาวชนมีความแข็มแข็งและเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ การสร้างเยาวชนให้มีความเข้มแข็งและเป็นพลเมืองที่ดี มีความรับผิดชอบต่อสังคม ควบคู่ไปกับการพัฒนาทักษะที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตและการทำงาน อย่างเช่นกิจกรรม Thailand Talks คุยกับคนเห็นต่างอย่างเข้าใจ เพื่อให้เราใกล้กันมากขึ้น เป็นกิจกรรมที่สนับสนุนการเรียนรู้เพื่อเสริมความคิดสร้างสรรค์ การแชร์ความคิดเห็น สร้างภาวะผู้นำ และการมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคม ให้เยาวชนตระหนักถึงบทบาทของตนเองในการพัฒนาประเทศ เมื่อเยาวชนมีจิตสำนึกที่ดี รู้จักคิดวิเคราะห์ และมีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม พวกเขาจะเติบโตเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวหน้าและมั่นคงในอนาคต

                                                                                                                                                                                                                                             danke schön

                                                                                                              นาย สหรัฐ กันหาป้อง

                                                                                                              วิทยาลัยการเมืองการปกครอง

                                                                                                              มหาวิทยาลัยมหาสารคาม